การประสมวงดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้
วงมโหรีอีสานใต้
ประวัติความเป็นมา
เป็นการละเล่นประกอบดนตรีที่ได้รับการสืบทอดมาแต่โบราณ
และนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมากและถือได้ว่าเป็นวงดนตรีที่เป็นพื้นฐานในการละเล่นอย่างอื่นๆเช่นอาไยกะโนบติงต็องกันตรึมเรือมลูดอันเรและการบรรเลงประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางทางไสยศาสตร์เช่นโจลมาม็วดบ็องบ็อดประกอบทั้งเป็นการบรรเลงประโคมในพิธีต่างๆทั้งงานมงคลและงานอวมงคล เป็นต้น
เครื่องดนตรี
วงมโหรีอีสานใต้หรือที่เรียกกันอย่างสามัญว่าวงมโหรีเขมรนี้จะประกอบด้วยเครื่องดนตรีดังต่อไปนี้
ซอด้วง 1-2 คัน
. ซอรัวเอก 1-2 คัน
. กลองกันตรึม 1-2 ใบ
ระนาดเอก 1 ราง
พิณ 1 อัน
ปี่สไล 1 เลา
. กลองรำมะนาขนาดใหญ่ 1 ใบ
เครื่องดนตรีดังกล่าวนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ในการจัดวงบางครั้งอาจจะลดหรือเพิ่มเครื่องดนตรีบางชิ้นได้เช่นพิณระนาดแต่เครื่องอื่นๆให้คงไว้
บทขับร้อง
บทขับร้องในการเล่นมโหรีมีจังหวะที่แตกต่างกันออกไปแต่ส่วนมากมีลักษณะใหล้เคียงกับการเล่นกันตรึมอาไยและกะโน๊บติงต็อง เพราะการละเล่นเหล่านี้ใช้วงมโหรีเขมรเป็นหลักในการบรรเลงจะมีนักร้องทั้งสองฝ่าย(หญิง–ชาย)ร้องโต้ตอบกันโดยมีการรำประกอบด้วยเนื้อหาที่ขับร้องมักเป็นบทเกี้ยวพาราสีบทตลกต่างๆตามแบบของการละเล่นพื้นบ้านโดยทั่วๆ ไป
ลักษณะของการบรรเลง
การบรรเลงของวงมโหรีเขมรนี้จะเริ่มจากบทไหว้ครูก่อนและบรรเลงสลับการขับร้องพร้อมด้วยการร่ายรำต่างๆที่สวยงามส่วนการจัดพิธีไหว้ครูมีพิธีแบบเดียวกันกับการเล่นกันตรึมหรือเรือมลูดอันเรโดยใช้เครื่องเช่นสังเวยอย่างเดียวกัน
รูปภาพ วงมโหรีอีสานใต้
วงกันตรึม
ประวัติความเป็นมา
กันตรึมหรือโจะกันตรึมเป็นดนตรีที่มีความสำคัญและมีบทบาทมากที่สุดแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันโดยเฉพาะในปัจจุบันในแถบจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์กำลังเป็นที่นิยมกันตรึมเป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของคนโบราณไม่ว่าจะเป็นพิธีแบบใดดนตรีกันตรึมถูกนำไปใช้บรรเลงประกอบเสมอเช่นงานแต่งงานงานบวชนาคงานศพหรือทางด้านพิธีกรรมเรียกว่า“โจลมาม็วด”ก็ใช้ดนตรีกันตรึมบรรเลงเป็นพื้นเครื่องดนตรีก็มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับงานด้วย
โอกาสที่แสดง
การเล่นกันตรึมนั้นมีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ
เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมว่าไพเราะเข้าถึงจิตใจของผู้ฟังมากกว่าดนตรีประเภท
อื่นๆกันตรึมจึงสามารถนำไปเล่นในโอกาสทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็นงานมงคลหรืองานอวมงคลรวมถึงการบรรเลงประกอบความเชื่อทางไสยศาสตร์เช่นการโจลมาม็วด(ก่รทรงเจ้าเข้าผี)บ็องบ็อดเป็นต้นกันตรึมนิยมนำไปเล่นในงานมงคลเช่นงานแต่งงานงานโกนจุกงานสมโภชต่างๆงานกฐินงานผ้าป่าฯลฯโยเฉพาะงานแต่งงานแต่โบราณมาถือว่าขาดกันตรึมมิได้กันตรึมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบางประการ
ทั้งทางเครื่องดนตรีและบทร้อง
เครื่องดนตรี
กลองกันตรึม ( โทน ) 2 ใบ
ปี่อ้อ 1 เลา
ซอตรัวเอก ( ซออู้ ) 1 คัน
ขลุ่ย 1 เลา
ฉิ่ง 1 คู่
ฉาบ 1 คู่
รูปภาพ วงกันตรึม
วงทุ่มโหม่ง ( ตึมุง )
ประวัติความเป็นมา
ทุ่มโหม่ง ภาษถิ่นเรียกว่า ตึมุง เป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงในงานศพโดยเฉพาะ ที่เรียกว่าทุ่มโหม่งหรือตึมุง เพราะตั้งชื่อตามเสียงกลอง ( ทุ่ม-ตึ ) และเสียงฆ้องหุ่ย ( โหม่ง-มุง )
ลักษณะที่เล่นและโอกาส
ผู้บรรเลงทุ่มโหม่งจะตั้งเครื่องดนตรีคือ ฆ้องโหม่ง กลองเพล ฆ้องวงปี่ใกล้ๆกับที่ตั้งศพและจะเล่นกล่อมศพไปตลอดคืนโอกาสที่เล่น จะบรรเลงตอนตั้งศพบำเพ็ญกุศล และทำบุญ 100 วัน
ทุ่มโหม่ง ภาษถิ่นเรียกว่า ตึมุง เป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงในงานศพโดยเฉพาะ ที่เรียกว่าทุ่มโหม่งหรือตึมุง เพราะตั้งชื่อตามเสียงกลอง ( ทุ่ม-ตึ ) และเสียงฆ้องหุ่ย ( โหม่ง-มุง )
ลักษณะที่เล่นและโอกาส
ผู้บรรเลงทุ่มโหม่งจะตั้งเครื่องดนตรีคือ ฆ้องโหม่ง กลองเพล ฆ้องวงปี่ใกล้ๆกับที่ตั้งศพและจะเล่นกล่อมศพไปตลอดคืนโอกาสที่เล่น จะบรรเลงตอนตั้งศพบำเพ็ญกุศล และทำบุญ 100 วัน
เครื่องดนตรี
1. ปี่ไฉนชนิดเล็ก 1 เลา
2. กลองเพลขนาดใหญ่ 1 ใบ
3. ฆ้องหุ่ย 1 ลูก
4. ฆ้องวง มีลูก 9 ลูก 1 วง
1. ปี่ไฉนชนิดเล็ก 1 เลา
2. กลองเพลขนาดใหญ่ 1 ใบ
3. ฆ้องหุ่ย 1 ลูก
4. ฆ้องวง มีลูก 9 ลูก 1 วง
รูปภาพ วงทุ่มโหม่ง ( ตึมุง )
วงเรือมอันเร
เป็นเครื่องดนตรีประกอบการรำกระทบสากหรือรำกระทบไม้
เครื่องดนตรี1. ไม้สาด 2 คู่คู่หนึ่งใช้รองอีกคู่หนึ่งใช้เคาะและกระทบเป็นจังหวะ
2. ตะโพน 2 ลูกแต่ปัจจุบันนิยมใช้กลองกันตรึม(โทน)แทน
3. ปี่อ้อ 1 เลาแต่ปัจจุบันนิยมใช้ปี่สไล(ปี่ใน)แทน
4. อาจเพิ่มเครื่องกำกับจังหวะอย่างอื่นอีก เช่น ฉิ่งและกรับ
รูปภาพ วงเรือมอันเร
วงเรือมมะม็วด
เป็นการประสมเครื่องดนตรีประกอบการรำแม่มดหรือรำผีฟ้า
เครื่องดนตรี
1. ซอ 1 คัน
2. ปี่อ้อ 1 เลา
3.
ปี่สไล (ปี่ใน)
1 เลา
4. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก
5.
ตะโพน 1 ลูก
6. ฉิ่ง 1 คู่
7. กรับ 1 คู่
รูปภาพ วงเรือมมะม็วด
วงระบำกะโน้บติงต๊อง
เป็นการประสมวงดนตรีประกอบการระบำกะโน้บติงต๊อง หรือระบำตั๊กแตนตำข้าว
เครื่องดนตรี
1. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก (เดิมใช้กลองทัด)
2. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
3. ซอตรัวเอก (ซออู้) 1 คัน
4. ฉิ่ง 1 คู่
5. กรับ 1 คู่
1. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก (เดิมใช้กลองทัด)
2. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
3. ซอตรัวเอก (ซออู้) 1 คัน
4. ฉิ่ง 1 คู่
5. กรับ 1 คู่
รูปภาพ วงระบำกะโน้บติงต๊อง
วงอาไย
เป็นวงเครื่องดนตรีประกอบการเล่นอาไย (
อาไยคือ การเล่นเบ็ดเตล็ดอย่างหนึ่ง ประกอบการ
เล่นมโหรี )
เล่นมโหรี )
เครื่องดนตรี
1. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
2. ซอตรัวเอก (ซออู้) 1 คัน
3. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก
4. เครื่องกำกับจังหวะคือกรับและฉิ่งอย่างละ 1 คู่
1. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
2. ซอตรัวเอก (ซออู้) 1 คัน
3. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก
4. เครื่องกำกับจังหวะคือกรับและฉิ่งอย่างละ 1 คู่
รูปภาพ วงอาไย
วงจเรียง
เป็นเครื่องดนตรีประกอบการจเรียง
นิยมใช้เครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียว
เครื่องดนตรี
1. เกนหรือเคน (แคน)
2. ตรัว (ซอ)
3. จเปย (กระจับปี่)
1. เกนหรือเคน (แคน)
2. ตรัว (ซอ)
3. จเปย (กระจับปี่)
รูปภาพ วงจเรียง
นาฏศิลป์พื้นเมืองอีสานใต้
การจเรียง
จเรียงในภาษาเขมรเป็นคำกิริยา แปลว่า ขับร้อง ถ้าเป็นคำนามใช้คำว่าจำเรียงการเล่นจเรียงมีลักษณะคล้ายคลึงกับการเล่นหมอลำหรือการเล่นเพลงโคราชจเรียงอาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทตามลักษณะชิ่อของจเรียงคือจเรียงที่มีชื่อตามชื่อของเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงประสานเสียง
จเรียงที่มีชื่อตามลักษณะของเพลงที่ใช้ขับร้อง
และจเรียงที่มีชื่อเรียกตามลักษณะงานประเพณี จเรียงแต่ละประเภทแบ่งออกได้ดังนี้
1. จเรียงที่มรชื่อเรียกตามเครื่องดนตรี
1.1จเรียงตรัวจเรียงที่ใช้ซอประกอบ
1.2จเรียงเปยจเรียงที่ใช้กระจับปี่ประกอบ
1.3จเรียงจเรียงที่ใช้ปี่ประกอบแต่บางท่านก็ว่าใช้ปี่อังโกล-ปี่เขาควายประกอบ
2. จเรียงที่เรียกชื่อตามลักษณะของเพลง
2.1จเรียงกันรบไกเป็นการขขับร้องคนเดียวหรือเป็นการโต้ตอบของหมอจเรียง
ชาย-หญิง ไม่ใช้เครื่องดนตรีประกอบ
2.2จเรียงอระแกวเป็นการร้องโต้ตอบระหว่างชาย-หญิงมีพ่อเพลง แม่เพลงและ
ลูกคู่บทร้องจบด้วย “นอระแกว”
2.3จเรียงปังนาเป็นการขับร้องคล้ายกับจเรียงนอระแกวแต่มีจังหวะเร้วกว่ามีสร้อย
แทรกและจบด้วย “ปังนา”
2.4จเรียงไปยอังโกงเป็นการเกี้ยวพาราสีใช้ปี่อ้อประกอบ
2.5จเรียงอาไยเป็นการเล่นเบ็ดเตล็ดอย่างหนึ่งประกอบการเล่น
มโหรี
โดยมากเป็นการร้องเกี้ยวพาราสี
2.6จเรียงเบรินเป็นการขับร้องโต้ตอบระหว่างชาย-หญิงโดยใช้
แคนเป่าประสารเสียงอย่าวเดียวกับหมอลำ
3. จเรียงที่มีชื่อเรียกตามงานประเพณี
3.1จเรียงตรดเป็นจเรียงในเทศกาลตรุษสงกรานต์ เพื่อขอรับ
บริจาคจตุปัจจัยจากครอบครัวต่างๆแล้วนำไปถวายวัด
3.2เป็นการขับร้อง
ในงานเทศกาลต่างๆของพวกคนหนุ่มเพื่อเกี่ยวสาวโดยใช้คันเบ็ดที่มีเหยื่อเป็นผลไม้หรือขนมต่างๆเป็นเหยื่อล่อสาวหากสาวคนใด
รับขนมนั้นก็แสดงว่ารับรักชายที่หย่อนเบ็ดลงมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น